นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสําคัญในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ใช้บริการ (รวมเรียกว่า “ผู้ใช้บริการ”) บริษัทจึงได้จัดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ที่ท่านจะได้รับความคุ้มครองในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดไว้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการที่บริษัทดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตซึ่งกำกับโดยกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท (“แพลตฟอร์ม”) และบริการอื่น ๆ ทั้งหมดของบริษัทที่มีอยู่ปัจจุบันและที่อาจมีขึ้นในอนาคต (รวมเรียกว่า “บริการ”) ได้อย่างมั่นใจ

ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลอาจประกอบด้วยข้อมูลที่ความละเอียดอ่อนและเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม (Sensitive Data) ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง ข้อมูลทางชีวภาพ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา ประวัติอาชญากรรม
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลใด ๆ ของท่านที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท และ/หรือที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท และ/หรือที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นหรือบุคคลอื่นใดโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แตกต่างไปจากที่ระบุในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงลักษณะที่แตกต่างออกไปขณะหรือก่อนที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การที่ท่านเข้าใช้บริการ ให้ถือว่าท่านได้อ่านและเข้าใจในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้แล้ว

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
กรณีที่ผู้ใช้บริการเข้าสู่บริการซื้อขายหน่วยลงทุนแต่ยังไม่ได้เปิดบัญชี

  • ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และพฤติกรรมการใช้บริการของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หมายเลขประจำเครื่อง (Unique Device Identifier) และหมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP address) ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตำแหน่งที่อยู่ คุกกี้ (cookie)
  • ข้อมูลอื่นใดที่ผู้ใช้บริการให้แก่บริษัทเพื่อการขอใช้บริการ
  • ข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อท่าน เช่น ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล
  • ข้อมูลตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และ/หรือหลักฐานอื่นที่ออกโดยราชการ เช่น เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด
  • ข้อมูลพฤติกรรมการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือการอ่านบทความ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กองทุน

เปิดบัญชีโดยทำการสมัครใช้บริการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ผ่านแพลตฟอร์ม

  • ข้อมูลตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และ/หรือหลักฐานอื่นที่ออกโดยราชการ เช่น เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด วันออกบัตร วันหมดอายุ ศาสนา
  • ข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อท่าน เช่น ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล
  • ลักษณะเฉพาะของบุคคล เช่น สถานภาพ ข้อมูลชีวภาพ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและ/หรือการทำงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน เช่น บันทึกรายการธุรกรรมที่ทำผ่านแพลตฟอร์มหรือบริการอื่น ๆ ข้อมูลบัตรเครดิต
  • ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และพฤติกรรมการใช้บริการของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หมายเลขประจำเครื่อง (Unique Device Identifier) และหมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP address) ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตำแหน่งที่อยู่ คุกกี้ (cookie)
  • ข้อมูลพฤติกรรมการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือการอ่านบทความ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กองทุน

กรณีที่ท่านติดต่อ

ทั้งนี้ เพื่อความจำเป็นในการให้บริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากบริการพื้นฐานของบริษัท หรือกรณีเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่ความละเอียดอ่อน (Sensitive Data) บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของท่านเท่านั้น โดยบริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ก่อนหรือขณะที่จะมีการดำเนินการดังกล่าวเป็นครั้ง ๆ ไป

ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการ
บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ภายใต้ฐานตามกฎหมายและดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • ฐานความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้บริการเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้บริการก่อนเข้าทำสัญญา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    ◦ การพิจารณาคำขอลงทะเบียนเข้าใช้แพลตฟอร์ม
    ◦ การอื่นใดที่จำเป็นในการให้บริการที่ดีที่สุดจากบริษัท
    ◦ การให้บริการช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามข้อมูล ตอบรับคำร้องขอ รับข้อมูลข่าวสาร หรือเพื่อการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการ
    ◦ การพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการในการเข้ารับบริการ
    ◦ การประมวลผลข้อมูลเพื่อให้บริการ
  • ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    ◦ การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของบริษัทซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ กฎ หลักปฏิบัติ หรือแนวทางปฏิบัติใด ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานตามกฎหมายหรือที่มีอำนาจกำกับดูแล เช่น ประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น โดยบริษัทอาจนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หน่วยงานราชการ หรือบุคคลนิติบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ฐานความยินยอม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    ◦ วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การเสนอสิทธิประโยชน์ และ/หรือเสนอขายสินค้าหรือบริการใด ๆ ที่อาจตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ, รายการส่งเสริมการขาย, การประชาสัมพันธ์, การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับบริการ ตลอดจนการสถิติ, วิเคราะห์, ศึกษาวิจัย, ประเมินผลข้อมูล หรือเพื่อจัดการความต้องการทางธุรกิจของบริษัท, คู่ค้าของบริษัทหรือบริษัทในเครือ
    ◦ วัตถุประสงค์อื่น ๆ อันชอบด้วยกฎหมายซึ่งบริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการเป็นคราว ๆ ไป เช่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการในการขอใช้บริการของผู้ให้บริการอื่นใดผ่านทางแพลตฟอร์ม
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    ◦ การป้องกันอาชญากรรมและการฉ้อโกง
    ◦ การรักษาความปลอดภัยของระบบและเครือข่ายเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลภายนอก และการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
เพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์และภายใต้ฐานตามกฎหมายของบริษัทข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวมจาก และ/หรือ ใช้, ส่ง, โอน, ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

  • บริษัทที่ควบคุมหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ตลอดจนบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันกับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด
  • นิติบุคคล หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีความสัมพันธ์กับบริษัท รวมถึงผู้ให้บริการอื่น ๆ ที่มีอำนาจดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ผู้ให้บริการภายนอก ผู้ให้บริการ Cloud หรือคู้ค้าอื่นใดของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท หน่วยงานราชการ ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง และบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด ที่บริษัทจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • ผู้รับโอนธุรกิจ/กิจการ ในกรณีที่บริษัทมีการควบรวม โอน ขาย ทรัพย์สิน และ/หรือกิจการทั้งหมด หรือแต่บางส่วน

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

  • หากผู้ใช้บริการลงทะเบียนเปิดบัญชี บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังคงมีบัญชีอยู่กับบริษัท และเก็บต่อไปตามมาตรฐานกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่เกิน 15 (สิบห้า) ปี หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด นับแต่เวลาที่บัญชีถูกยกเลิก
  • หากผู้ใช้บริการใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัทนอกเหนือจากแพลตฟอร์ม บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

การรักษาความปลอดภัย
บริษัทรับทราบและตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทจึงได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้สอดคล้องกับกฎหมาย และทันสมัยและปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากลตลอดเวลา บริษัทจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีหน้าที่ตามกฎหมาย รักษาและเคารพซึ่งความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
ในกรณีที่ทางบริษัทมีความจำเป็นหรือต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของผู้ใช้บริการไปยังต่างประเทศ บริษัทจะใช้มาตรฐานตามที่กฎหมายในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และบริษัทจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังประเทศปลายทางที่ไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่ผู้ใช้บริการยินยอมให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังประเทศปลายทางดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการถูกจารกรรมทางคอมพิเตอร์ไม่ว่าด้วยวิธีการเจาะระบบ (hacking) ขโมย สำเนา หรือทำลายฐานข้อมูล ทำลายรหัสลับส่วนตัว (password mining) หรือวิธีการอื่นใด ซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัท บริษัทมีสิทธิที่จะปฏิเสธความรับผิดใดๆ อันเป็นผลมาจากการกระทำดังกล่าว

สิทธิของผู้ใช้บริการ
ผู้ใช้บริการมีสิทธิดังต่อไปนี้

  • ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองซึ่งอยู่กับบริษัทและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปโดยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ หรือใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยวิธีอัตโนมัติ (ในกรณีที่บริษัทจัดทำ), หรือ ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด และรวมถึง ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทส่งหรือโอนแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น (เว้นแต่ทางเทคนิคไม่สามารถที่จะทำได้)
  • คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามที่กฎหมายกำหนด
  • ขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย ระงับการใช้ชั่วคราว หรือแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถรู้ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการถอนความยินยอม หรือบริษัทไม่มีฐานและสิทธิตามกฎหมายของบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป หรือเมื่อเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
  • ขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีที่อยู่ระหว่างการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามที่กฎหมายกำหนด
  • ขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องตามความจริงใด ๆ ที่ผู้ใช้บริการใช้หรือแสดงแก่บริษัทเพื่อรับบริการ ภายหลังจากที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องพร้อมหลักฐานสนับสนุน โดยถือเป็นดุลยพินิจของบริษัทในการพิจารณา
  • เพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้แก่บริษัทได้โดยวิธีการตามที่บริษัทกำหนด การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมไปแล้วอย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอมอันหนึ่งอันใดอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้บริการ หรือไม่ได้รับข่าวสารที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการ ตลอดจนผู้ใช้บริการเสียสิทธิในการได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากทางบริษัท หรืออาจส่งผลให้การสมัครใช้บริการมีขั้นตอนมากขึ้น
  • ร้องเรียนในกรณีที่บริษัท ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการรับทราบว่าสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิเบื้องต้น ผู้ใช้บริการจะใช้สิทธิดังกล่าวได้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทขอสงวนสิทธิพิจารณาและดำเนินการตามคำขอดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว

ภาษา
การแปลนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาใดก็ตาม มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ใช้บริการเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่มีข้อความขัดแย้งกันระหว่างฉบับภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย ให้ยึดข้อความตามภาษาไทย

การติดต่อ
หากผู้ใช้บริการมีคำถาม ข้อร้องเรียน การขอเข้าถึง หรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคลนี้ และ/หรือต้องการตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดของผู้ใช้บริการอยู่ในความครอบครองของบริษัท ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 1240 หรือช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนด

การปรับปรุงนโยบาย
อนึ่ง การใช้บริการใด ๆ ของบริษัท ถือเป็นการยอมรับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทอาจแก้ไขหรือเพิ่มเติมนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ และแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ การที่ผู้ใช้บริการใช้บริการแพลตฟอร์ม หรือบริการใด ๆ ภายหลังจากที่มีการประกาศแก้ไขหรือเพิ่มเติมดังกล่าวย่อมถือเป็นการยอมรับการแก้ไขหรือเพิ่มเติมแต่ละครั้ง