สินค้าขายดี

ประกันการเดินทาง

ประกันภัยรถยนต์รายปี

ประกันอุบัติเหตุ 16 บาท

ประกันอุบัติเหตุ

พ.ร.บ. รถยนต์

หมวดหมู่
กรุณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่สนใจ

ลด 10%*
+ บัตรน้ำมัน

ประกันภัยรถยนต์
รายปี

ลด 10%*

ประกันการเดินทาง

ประกันภัยรถยนต์
650 บาท/เดือน

ลด 5%*

พ.ร.บ. รถยนต์

เงินคืน 1,300 บ.*

ประกันสุขภาพ

บริการปกป้องมือถือ

เงินคืน 1,300 บ.*

ประกันสุขภาพ
สำหรับผู้สูงอายุ

ประกันชดเชยรายได้

ประกันออมทรัพย์

ประกันบ้าน
และทรัพย์สิน

ประกันโรคร้ายแรง

ประกันอุบัติเหตุ
ส่วนบุคคล

ประกันรถมอเตอร์ไซค์

ประกันสัตว์เลี้ยง

หมายเหตุ:

คำถามที่พบบ่อย

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รถยนต์

พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่ทางรัฐให้ยานยนต์ทุกคันที่วิ่งบนถนนต้องทำ หากไม่ทำจะมีโทษเสียค่าปรับ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนไปจนถึงคนเดินเท้าทั่วไปมีหลักประกันคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลและได้รับเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต ดังนั้นหากเรามีรถยนต์เราจึงควรทำ พ.ร.บ. รถยนต์ไว้ด้วย เพราะค่ารักษาพยาบาลนั้นมีราคาแพง ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา พ.ร.บ จะมาช่วยในส่วนนี้

โดยรวมแล้วเมื่อเหตุอุบัติเหตุจากรถยนต์ พ.ร.บ. จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมถึงเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ โดยจะแบ่งออกเป็นค่าเสียหายที่ได้ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุตามเรทที่กำหนด และหากพิสูจน์แล้วว่าเราเป็นฝ่ายถูกเราจะได้เงินชดเชยเพิ่มเติม

ตามราคาปัจจุบัน พ.ร.บ. รถยนต์ ส่วนบุคคล หรือรถเก๋งที่เรานิยมเรียกกันจะอยู่ที่ราคา 645.21 บาท ต่อปี ซึ่งไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลที่ พ.ร.บ. จะช่วยเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเตรียมเอกสารไว้เพื่อกรอกข้อมูลดังนี้ สำเนาทะเบียนรถ หรือเล่มจริง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุและเราต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล เบื้องต้นให้เราแจ้งสิทธิกับทางโรงพยาบาล และสำรองจ่ายไปก่อน จากนั้นให้ติดต่อไปยังบริษัทประกันภัยที่เราซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ให้ทางบริษัทดำเนินเรื่องเบิกค่ารักษาและค่าเสียหายให้ โดยอาจจะต้องเตรียมหลักฐานดังนี้ ใบบันทึกประจำวันจากการแจ้งความ, ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล, ใบรับรองแพทย์, สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบเหตุ, สำเนาบัตรประชนชนของทายาทผู้รับผลประโยชน์

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถจักรยานยนต์

สำหรับประกันรถจักรยานยนต์และประกันรถยนต์ทั้งสองมีความคุ้มครองเหมือนกัน แบ่งออกเป็น ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 3+ เหมือนกัน แตกต่างที่เบี้ยประกันรถจักรยานยนต์ราคาย่อมเยาว์กว่า เริ่มต้นที่ 1,XXX บาท

ประกันรถจักรยานยนต์ เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ทุกวันในการเดินทาง เช่น ขับขี่ในเมือง ขับขี่ออกทัวร์ต่างจังหวัด หรือผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่อยู่เป็นประจำ คนซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ กล่าวคือทั้งมือใหม่และเซียนขับก็สามารถซื้อได้ เพราะประกันรถจักรยานยนต์จะช่วยดูแลทุกการเดินทางให้อุ่นใจ ช่วยลดความเสี่ยง ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุหรือทุพพลภาพก็จะมีกรมธรรม์ดูแลในส่วนนี้

สำหรับประกันรถจักรยานยนต์จำกัดอายุรถ กล่าวคือรถจักรยานยนต์อายุไม่เกิน 10 ปีเท่านั้นที่สามารถทำประกันรถจักรยานยนต์ได้

ความคุ้มครองของประกันรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองชนิดแตกต่างกันที่เบี้ย ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ จะให้ความดูแลครอบคลุมกว่า ซึ่งจะรับประกันรถจักรยานยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี คุ้มครองประกันรถหายมอเตอร์ไซค์ ส่วนประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+ จะเน้นรับประกันมอเตอรไซค์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี แต่ไม่คุ้มครองกรณีประกันรถหาย

หลายคนคงคิดว่าไม่ค่อยได้ใช้รถจักรยานยนต์บ่อย ๆ ใช้นาน ๆ ที มีแค่พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ดูแลก็น่าจะเพียงพอ จะจ่ายเพิ่มทำไม แต่เราอยากแนะนำว่า การซื้อประกันรถจักรยานยนต์เป็นซื้อประกันภาคสมัครใจที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เติมความคุ้มครองที่เพิ่มเติมจากพ.ร.บ.จักรยานยนต์ ช่วยให้ชีวิตคุณและคนที่รักมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ดูแลกรณีบาดเจ็บจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น รถหาย ไฟไหม้ และช่วยประกันตัวผู้ขับขี่หากเกิดคดี ซึ่งเป็นความคุ้มครองที่คุ้มค่า

ส่วนการเคลมประกันรถจักรยานยนต์ไม่ยาก กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ให้คุณโทรแจ้งบริษัทฯ ประกัน ระบุที่เกิดเหตุ สถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมิน ในกรณีรถจักรยานยนต์หาย ให้คุณเตรียมใบแจ้งความ พร้อมกับเล่มรถ สำเนาเล่มรถ เพื่อแจ้งประกันว่ารถหาย พร้อมกับทำการเบิกเคลม

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับสิทธิ์
ลูกค้าทรูมันนี่ตรวจสอบแผนประกันภัยรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท และซื้อประกันภัยรถยนต์กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 500 บาท/กรมธรรม์ สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และบัตรโลตัส มูลค่า 300 บาท/กรมธรรม์ สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ และ 3+, ไม่จำกัดสิทธิ์/ท่าน, ตลอดระยะเวลาโครงการ, ตามเงื่อนไขการรับสิทธิ์ที่กำหนด

ระยะเวลาการรับสิทธิ์
วันที่ 1 ก.ค. 2565 – 31 ส.ค 2565

เงื่อนไขการรับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 500 บาท และบัตรโลตัส มูลค่า 300 บาท
1. สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทรูมันนี่เท่านั้น โดยตรวจสอบแผนประกันภัยรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท และซื้อประกันภัยรถยนต์กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) รับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 500 บาท/กรมธรรม์ สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และบัตรโลตัส มูลค่า 300 บาท/กรมธรรม์ สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ และ 3+
2. ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ฯ ตลอดระยะเวลาโครงการ
3. สิทธิพิเศษตามโครงการนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นสิ่งของชนิดอื่นได้
4. ผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน โดยไม่ยกเลิกกรมธรรม์ประกันภายใน 30 วันนับแต่วันที่ซื้อประกันภัย บริษัทฯ จะดำเนินการจัดส่งบัตรเติมน้ำมันหรือบัตรโลตัส ตามที่อยู่ที่ใช้จัดส่งกรมธรรม์ ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ซื้อประกันภัย
5. ประกันภัยรถยนต์ ให้ชำระเบี้ยตามหลักเกณฑ์ Cash Before Cover (CBC) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด การพิจารณาของบริษัทฯ ถือเป็นข้อยุติ
6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
7. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
8. ดำเนินการเสนอขายโดย บริษัท โบลท์เทค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยเลขที่ ว00017/2559 และรับประกันภัยโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
9. รายการส่งเสริมการขายโดย บริษัท โบลท์เทค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
10. หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในการประกันภัยหรือเงื่อนไขการรับสิทธิ์โปรโมชั่น ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า ทิพยประกันภัย โทร 1736 วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08:30 น. – 16:30 น.

ประกันรถยนต์มีความคุ้มครอง แบ่งออกเป็น ประกันชั้น 1 ประกันชั้น2,  2+ ประกันชั้น 3, 3+  ซึ่งแตกต่างกันที่เบี้ยประกันและความคุ้มครองในแต่ละประเภท โดยลูกค้าสามารถเลือกแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของลูกค้าได้เลย

ประกันชั้น 1 จะมีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ดังนี้ 

  • อุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี
  • อุบัติเหตุรถชนรถ
  • คุ้มครองรถหาย
  • คุ้มครองรถไฟไหม้
  • คุ้มครองน้ำท่วมรถ
  • ผลกระทบของการก่อการร้าย
  • คุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • ประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
  • คุ้มครองทรัพย์สินเสียหายจากอุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกินจาก พ.ร.บ.

ประกันชั้น 2+ จะมีความคุ้มครองดังนี้ 

  • คุ้มครองอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถยนต์
  • คุ้มครองอุบัติรถยนต์สูญหาย
  • คุ้มครองรถยนต์ไฟไหม้
  • คุ้มครองรถยนต์ถูกน้ำท่วม
  • คุ้มครองผลกระทบจากเหตุก่อการร้าย
  • คุ้มครองกรณีคนขับ และผู้โดยสารพิการ หรือเสียชีวิต
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • มีเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
  • ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากอุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกินจากพ.ร.บ.

ประกันชั้น 3+ จะมีความคุ้มครองดังนี้ 

  • อุบัติเหตุการชนของรถกับรถ
  • อุบัติเหตุส่วนบุคคลของคนขับและผู้โดยสาร
  • รักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • ประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
  • ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากอุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกินจาก พ.ร.บ.

ส่วนใหญ่เจ้าของรถจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถใหม่ป้ายแดง แต่เมื่ออายุการใช้งานของรถเพิ่มขึ้น ความหวงแหนก็จะน้อยลงมา คุณก็สามารถลดจำนวนเงินเอาประกันภัยให้น้อยลงกว่าเดิมได้ เราก็ควรเลือกทุนประกันให้เหมาะสมตามอายุการใช้งานได้

ประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยทั่วไปมีทุนประกันขั้นต่ำ 80% ของมูลค่ารถ แต่อย่างไรก็ตามมูลค่าของรถยนต์มักจะลดลงตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้นด้วย เมื่อคำนวณจำนวนเงินเอาประกันภัยจะคิดตามราคาที่กำหนดในปีนั้นๆ เช่น 

รถปีที่ 1 รถใหม่ (ป้ายแดงนั่นเอง) จะได้รับทุนประกัน 80% ของมูลค่ารถ 

เช่น รถใหม่ซื้อมา 700,000บาท ทุนประกัน 80% = 560,000 บาท 

รถปีที่ 2 คันเดิม (ปีนี้ถือว่าไม่ใหม่แล้ว) ทำประกันกับบริษัทประกันเจ้าเดิม จะได้รับทุนประกัน 80% ของมูลค่ารถยนต์ในปีที่แล้ว 

มูลค่ารถปีที่ 2 เป็น 560,000 บาท ทุนประกัน 80% = 448,000 บาท 

แต่ถ้าปีที่ 2 คุณเปลี่ยนบริษัทประกัน บริษัทจะคิดคำนวนทุนประกัน 80% ของราคากลาง

ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคำนวณได้หลายปัจจัย เช่น ค่าประกันรถยนต์คิดตาม 70-80% ของมูลค่ารถ จำนวนทุนประกันที่ให้ความคุ้มครอง การเลือกส่วนลดเบี้ยประกันต่างๆ เช่น ประวัติการขับขี่ที่ดี การระบุชื่อผู้ขับขี่ และส่วนลดโปรโมชั่นแต่ละบริษัทประกัน

การซื้อประกันชั้น 1 ราคาประหยัดสามารถทำได้หลายวิธีอย่างเช่น ใช้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี เพื่อรับส่วนลด 20-50% แล้วแต่ประวัติของลูกค้าแต่ละท่าน หรือการซื้อแบบมีการระบุชื่อผู้ขับขี่ และเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ก็จะทำให้คุณลูกค้าได้รับประกันชั้น 1 ในราคาที่ย่อมเยาว์กว่า

ประกันชั้น 1 ต่างจากประกันชั้น 2+ คือ ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุการชนแบบไม่มีคู่กรณี ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 2, 2+ จะไม่สามารถเคลมได้หากไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า ขับรถชนรั้วบ้าน เป็นต้น

ส่วนการเคลมประกันรถยนต์ไม่ยุ่งยากเลย กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ให้คุณโทรแจ้งบริษัทฯ ประกัน ระบุที่เกิดเหตุ สถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมิน ในกรณีรถยนต์ของคุณหายใช้คุณเตรียมใบแจ้งความ พร้อมกับเล่มรถยนต์ สำเนาเล่มรถ เพื่อแจ้งประกันว่ารถหาย พร้อมกับทำการเบิกเคลม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันการเดินทาง

คือความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยระหว่างการเดินทาง ท่องเที่ยว หรืออยู่ในต่างประเทศเป็นการชั่วคราว

เป็นการป้องกันตัวเองและคนที่เดินทางด้วยขณะที่เราเดินทาง เช่นเกิดอุบัติเหตุ ต้องเข้าโรงพยาบาล หรือเลวร้ายสุดในกรณีเสียชีวิต รวมถึงจ่ายค่าชดเชยต่างๆ เช่นความล่าช้าของเที่ยวบินด้วย

แล้วแต่นโยบายของบริษัทประกันนั้นๆ โดยทั่วไปแล้วการรับประกันการเดินทางแบบรายบุคคลจะรับประกันที่อายุระหว่าง 1 – 75 ปี

ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง แต่ถ้ามีความเจ็บป่วยอยู่ก่อนควรแจ้งให้บริษัทประกันทราบไว้จะดีกว่า เพราะแต่ละบริษัทประกันก็จะมีเงื่อนไขเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ต่างกันไป

ประกันการเดินทางจะไม่คุ้มครองโรคประจำตัว แต่ลูกค้ายังสามารถซื้อได้ เพื่อคุ้มครองความเสียหายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ประกันการเดินทางแต่ละบริษัทจะมีการยกเว้นที่ต่างกัน อาจจะไม่คุ้มครองในประเทศที่มีความเสี่ยง เช่น ดังนี้ คิวบา อิหร่าน เกาหลีเหนือ ซีเรีย ยูเครน เบลารุส โซมาเลีย ซูดาน ซูดานใต้ สาธารณรัฐคองโก ซิมบับเว และเนปาล หรือประเทศที่ได้รับการคว่ำบาตรโดย UN สหรัฐอเมริกา หรือ EU ด้วย

สามารถเลื่อนวันเดินทางได้ แต่ต้องบอกให้บริษัทประกันรู้ล่วงหน้าก่อนวันเดินทางตามกรมธรรม์

คือคุ้มครองตั้งแต่วันเดินทางไป – วันที่เดินทางกลับ

คุ้มครองตามกรมธรรม์ จะมีทั้งการช่วยเหลือฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล รวมไปจนถึงค่าห้องในกรณีผู้ป่วยในด้วย

เบื้องต้นเลยคือช่วยในการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่ารักษาพยาบาล และการเคลื่อนย้ายกลับประเทศไทยซึ่งค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศจะมีราคาสูงมากๆ ซึ่งประกันการเดินทางจะช่วยแบ่งเบาภาระนี้ได้แน่นอน

เก็บใบเสร็จรับเงินตัวจริงค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปทุกอย่างให้เรียบร้อย

  1. เตรียมเอกสารที่ใช้เคลมประกันการเดินทางให้พร้อม
  2. ติดต่อบริษัทประกันเพื่อแจ้งเคลมตามช่องทางที่บอกไว้ได้เลย
  3. ส่งเอกสารทุกอย่างให้บริษัทประกันภายใน 30 วันหลังวันสิ้นสุดความคุ้มครอง คือหลังวันเดินทางกลับนั่นเอง
  4. บริษัทประกันจะดำเนินการคืนเงินที่เคลมไปภายใน 15 วันทำการ หลังจากตกลงกันได้เรียบร้อย และได้รับเอกสารครบ

ประกันการเดินทางคุ้มครองการสูญหายของทรัพย์สินและสัมภาระโดยการขนส่ง การจี้ปล้น ชิงทรัพย์ต่างๆ ถ้าวางทิ้งไว้แล้วลืมเองประกันจะไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้

เนื่องจากอัตราค่าเงินระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยากจะคิดเป็นจำนวนเป๊ะๆ ไว้ก่อนได้ จึงใช้เป็นวิธีการจ่ายไปก่อน แล้วนำมาเบิกเคลมทีหลังจะง่ายกว่า

สามารถแจ้งยกเลิกกับบริษัทที่ซื้อประกันการเดินทาง แต่จะได้รับเงินคืนในกรณีที่ลูกค้ายื่นวีซ่าไม่ผ่านเท่านั้น

ถ้าเจ็บป่วยในที่ทุรกันดาร จำเป็นต้องได้รับการรักษาเบื้องต้นก่อนการเคลื่อนย้ายไปรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน ประกันเดินทางนี้ก็ยังคงคุ้มครองอยู่

จะใช้เป็นหมายเลขพาสปอร์ต วัน เวลาเดินทาง ประเทศปลายทางของคุณลูกค้า และเป็นการกรอกเอกสารโดยลูกค้าต้องเป็นคนทำรายการซื้อเอง ดังนั้นขอให้ละเอียดมากๆ ในขั้นตอนการกรอกนะ

แล้วแต่แผนประกันที่ลูกค้าเลือก จะเป็นไปตามจำนวนวัน เริ่มต้นเพียงประมาณ  210 บาท สำหรับการเดินทาง 3 วัน ซึ่งคุ้มค่ามาก

คุณสามารถซื้อก่อนเดินทางเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องซื้ออย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง

คำถามทั่วไปประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คือประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ จะให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • กรณีเสียชีวิต
  • การสูญเสียอวัยวะและสายตา
  • กรณีทุพพลภาพถาวร
  • ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะคุ้มครองผู้เอาประกันที่มีช่วงอายุตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แต่ละบริษัท ซึ่งโดยพื้นฐาน จะคุ้มครองผู้เอาประกันที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปีบริบูรณ์

ในส่วนของประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะมีการชดเชยค่ารักษาพยาบาล เฉพาะกรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น โดยจะไม่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลจากอาการเจ็บป่วยอื่นๆ

สำหรับแผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จะให้ความคุ้มครองกรณีประสบอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดแต่ละบริษัทประกัน ว่าจะคุ้มครองเต็มวงเงิน หรือจำกัดวงเงิน โดยลูกค้าสามารถศึกษาได้จากรายละเอียดของแผนประกันที่ลูกค้าจะซื้อ เพื่อเลือกความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และประกันอื่นๆ ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล การซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะขณะอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น มันจะช่วยเติมเต็มกรณีที่เดินทางไปประสบอุบัติเหตุในต่างประเทศ ซึ่งประกันการเดินทางไม่ได้ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมไว้

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะไม่รับประกันบุคคลที่ประกอบอาชีพซึ่งมีความเสี่ยงระดับ 3 และ 4 แบ่งออกเป็น

  • อาชีพที่มีความเสี่ยงระดับ 3 เช่น ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานช่างหรือทำงานกับเครื่องจักรกลหนัก หรือเป็นผู้ใช้แรงงาน ผู้ขนส่ง
  • อาชีพที่มีความเสี่ยงระดับ 4 เช่น ลักษณะงานเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นพิเศษ

ซึ่งสามารถระบุให้ชัดเจนคืออาชีพดังต่อไปนี้ จักรยานยนต์รับจ้าง คนงานก่อสร้าง ช่างยนต์ กรรมกร พนักงานเหมือง ชาวประมง พนักงานทำความสะอาดกระจก ช่างไฟฟ้า ยาม พนักงานดับเพลิง สตั๊นท์แมน พนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่ คนขับรถขนส่งประจำทาง นักแข่งรถ นักมวย นักประดาน้ำ นักปีนเขา พนักงานขุดเจาะ คนขับเรือ อาสาสมัครกู้ภัย พนักงานติดตั้งเสาอากาศ พนักงานติดตั้งป้ายโฆษณา

คำถามทั่วไปสำหรับประกันสุขภาพ

ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่ผู้เอาประกันตอบคำถามสุขภาพเบื้องต้นไม่กี่ข้อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับพิจารณารับประกัน

เลือกวันเริ่มต้นคุ้มครอง เลือกอายุของผู้ทำประกัน และเลือกแผนประกันสุขภาพตามราคาและความคุ้มครองที่ใช่สำหรับคุณ หรือจะเปรียบเทียบเบี้ยก่อนตัดสินใจก็ได้

โดยปกติความคุ้มครองประกันสุขภาพจะมีระยะเวลารอคอย 30 – 180 วัน หลังจากวันที่กรมธรรม์ออก ทั้งนี้ระยะอาจขึ้นอยู่กับโรคและกรมธรรม์ด้วย ของแต่ละบริษัทประกันด้วย เพราะแต่ละโรคมีระยะเวลารอคอยไม่เท่ากัน

ประกันสุขภาพมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีเหมือนประกันสุขภาพทั่วไป สามารถเลือกวันเริ่มต้นคุ้มครองได้

การเคลมค่ารักษาสามารถเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของประกันสุขภาพโดยที่ไม่ต้องสำรองจ่าย หรือหากเป็นโรงพยาบาลนอกเครือก็สามารถเข้าได้โดยสำรองจ่ายก่อนแล้วเบิกเคลมทีหลังก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะต้องกรอกแบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมของบริษัทฯ ประกันภัยที่เลือกไว้ พร้อมกับรับรองแพทย์ระบุอาการ และใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ

สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนัด

อายุของผู้ซื้อจะมีผลกับเบี้ยประกันสุขภาพ กล่าวคืออายุน้อย จะเบี้ยน้อย จึงแนะนำว่าคุณลูกค้าสามารถทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ จะดีกว่า

จะคุ้มครองทั้ง 2 อย่าง โดยจะขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองที่คุณเลือก จะเป็นผู้ป่วยใน (IPD) ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยนอก (OPD) มารักษาแล้วกลับ ประกันสุขภาพก็ดูแลค่ารักษาตามวงเงินที่คุณเลือกไว้ละ

จะแตกต่างกันกับประกันสังคม หากคุณเลือกทำประกันสุขภาพกับเรา คุณสามารถเลือกรักษาตัวในสถานพยาบาลใดก็ได้ที่อยู่ในเครือของบริษัทฯ ประกันภัยที่เลือกไว้ โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท

ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณลูกค้า เนื่องจากประกันสุขภาพจะช่วยเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ เพิ่มเติมจากสวัสดิการของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ไม่เป็นภาระกับคุณลูกค้าหากเกิดเหตุที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก

ข้อยกเว้นที่ประกันภัยสุขภาพไม่คุ้มครอง ได้แก่

  • โรคเรื้อรังที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคทางพันธุกรรม
  • การตรวจรักษาเพื่อความงาม
  • โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการตั้งครรภ์ แท้งบุตร ทำแท้ง
  • โรคเอดส์ การโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ทำเลสิคสายตา หรือค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์เพื่อการมองเห็น
  • การบำบัดจากการใช้สารเสพติดให้โทษ บุหรี่ สุรา
  • โรคทางจิตเวช หรือมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ สมาธิสั้น เครียด หรือความวิตกกังวล
  • การตรวจรักษาโรคที่อยู่ในระหว่างการทดลอง
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหรือป้องกันบาดทะยัก หลังจากถูกสัตว์ทำร้าย
  • การตรวจรักษากับแพทย์ทางเลือก
  • การพยายามฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง รวมถึงอุบัติเหตุจากการกิน ดื่ม หรือฉีดยา สารพิษเข้าร่างกายเกินกว่าที่แพทย์สั่ง
  • การบาดเจ็บที่เกิดจากการเมาสุรา หรือเสพสารเสพติด
  • บาดเจ็บ เพราะร่วมทะเลาะวิวาท
  • บาดเจ็บจากการก่ออาชญากรรม และหลบหนีจากการจับกุม

ทั้งหมดที่เล่ามานี้ ประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครอง และต้องย้ำว่าหลังจากทำประกันสุขภาพเสร็จแล้ว ยังมีระยะเวลาไม่คุ้มครอง (Waiting Period) โดยบริษัทฯ ประกันภัยจะไม่จ่ายผลประโยชน์สำหรับการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วันหลังจากกรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับใช้

กรณีที่ต้องการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย (Free look Period) จะต้องแจ้งเจตจำนง ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ที่ได้รับกรมธรรม์ ให้ถือว่าประกันภัยดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้ และบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยที่ได้ให้กับผู้เอาประกันภัยตามวิธีการที่ได้ตกลงร่วมกัน

คำถามทั่วไปสำหรับประกันโรคร้ายแรง

คือ กรมธรรม์ประกันภัยที่ทำเพิ่มเติมนอกเหนือจากการทำประกันสุขภาพ ทั้งนี้ประกันโรคร้ายแรงจะครอบคลุมโรคร้ายแรงต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น โรคมะเร็ง (แต่ไม่รวมโรคมะเร็งผิวหนัง) โรคตับ โรคไต โรคปอด โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด  ฯลฯ โดยความคุ้มครองทางบริษัทจะจ่ายเงินผลประโยชน์ชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

อย่างที่บอกว่าประกันโรคร้ายแรงจะคุ้มครองโรคที่เกิดจากอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง และเป็นอันตรายต่อชีวิต หากเราทำประกันโรคร้ายแรงไว้ บริษัทก็จะจ่ายเงินผลประโยชน์ชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันเพื่อนำไปรักษาตัว ซึ่งจะช่วยเเบ่งเบาภาระให้แก่คนในครอบครัวด้วย

ประกันโรคร้ายแรงจะมีขอบเขตการคุ้มครองแต่ละโรคที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละกรมธรรม์ บางแผนกรมธรรม์อาจมีคุ้มครองโรคมะเร็งทุกชนิด ส่วนบางแผนกรมธรรม์ก็อาจจะคุ้มครองมะเร็งที่เจาะจงในแต่ละประเภทไป ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการซื้อประกันโรคร้ายแรงต้องอ่านรายละเอียดให้ดี แล้วตัดสินใจเลือกกรมธรรม์ที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง

เราควรซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่ยังมีสุขภาพดี เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งค่าเบี้ยประกันโรคร้ายแรงมักจะเปลี่ยนไปตามอายุของผู้เอาประกันภัย ดังนั้น ผู้ทำประกันที่มีอายุน้อยเบื้ยประกันจะถูกกว่าผู้ทำประกันที่มีอายุมาก

โดยปกติแล้วการทำประกันโรคร้ายแรงจะมีระยะเวลารอคอยประมาณ 90 วัน แต่ทั้งนี้อาจมีกรมธรรม์โรคร้ายแรงบางประเภทที่ต้องใช้ระยะเวลารอคอยนานกว่านั้น ซึ่งผู้ที่ทำประกันต้องอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนทำประกันภัยทุกครั้ง

ประกันโรคร้ายแรงสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เหมือนกับประกันสุขภาพทั่วไป โดยลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี ท้้งนี้จะแล้วแต่นโยบายการหักภาษีในแต่ละปีด้วย

การทำประกันโรคร้ายแรง ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ผู้ทำประกันจะต้องตอบคำถามสุขภาพอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการพิจารณาทำประกัน

ประกันโรคร้ายแรงจะให้ความคุ้มครองเฉพาะการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ โรคปอด เป็นต้น โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพียงครั้งเดียวตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ต่างจากประกันสุขภาพที่เน้นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้ตามวงเงิน

ประกันโรคร้ายแรงมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี หลังจากวันที่มีผลบังคับใช้ความคุ้มครอง และสามารถเลือกวันเริ่มต้นคุ้มครองได้

คำถามทั่วไปสำหรับประกันบ้านและทรัพย์สิน

ประกันที่คุ้มครองบ้านของคุณจากการไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด รวมถึงภัยจากน้ำ ยานพาหนะ หรือจากอากาศยาน ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าลัดวงจร คุ้มครองทรัพย์สินทั่วไปในที่อยู่อาศัยของคุณลูกค้า ประกันตัวนี้ก็คุ้มครอง

สามารถซื้อได้ ประกันนี้รับดูแลลูกค้าที่ไม่แน่ใจในมูลค่าทรัพย์สิน ลูกค้าเลือกซื้อเพิ่ม หากคุณมีประกันอัคคีภัยอยู่แล้ว ถึงบ้านหรือคอนโดมิเนียมของเราติดไฟแนนซ์กับธนาคารอยู่ก็สามารถซื้อกรมธรรม์นี้ได้ โดยคุณจะได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินเพิ่มเติมมากกว่าเดิม

สามารถทำได้ แค่ต้องเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างให้ถูก ตามแผนประกันที่มีให้เลือกเท่านั้นเอง

มี 4 แบบ  ได้แก่

  1. ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นคอนกรีตและอิฐ
  2. ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นคอนกรีดล้วน
  3. ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นอิฐและไม้
  4. ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นไม้ล้วน

คุณสามารถขอเบิกเคลมได้ทันทีหากบ้านหรือที่พักอาศัยของคุณเสียหายไม่จนสามารถพักอาศัยได้อีก โดยความการชดเชยจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่คุณเลือก ดังนั้นจึงเป็นประกันที่ช่วยคุ้มครองเราและครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลย

ประกันบ้านและคอนโดจะช่วยชดเชยค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ใหม่ โดยไม่หักค่าเสื่อมราคา

เพราะเข้าใจว่าทุกการสูญเสียเป็นเรื่องที่ทำให้คุณขวัญเสีย เราพร้อมช่วยประสานงานเมื่อคุณประสบเหตุร้าย การเคลมประกันบ้านส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการเตรียมเอกสารตามที่บริษัทฯ ประกันร้องขอ เช่น ถ่ายภาพความเสียหาย ร่องรอยที่เกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัย เก็บซากทรัพย์ที่เสียหายไว ตามปรกติคุณจะได้รับเงินภายใน 7 วัน หลังจากบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติการเรียกร้องค่าสินไหม

เมื่อเกิดเหตุต้องถ่ายภาพความเสียหายหรือร่องรอยทั้งหมด อาจจะต้องเก็บซากทรัพย์ที่เสียหายไว้อย่าทิ้งเด็ดขาด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมิน หรือจะเตรียมเอกสารใบเสนอราคาค่าซ่อม ใบเสร็จสินค้า สำเนาบัตรประชาชนให้พร้อม พร้อมกับกรอกแบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทรัพย์สินส่วนบุคคลของบริษัทของท่านเพื่อแจ้งเหตุให้บริษัททราบโดยเร็วที่สุด

คำถามทั่วไปสำหรับประกันโทรศัพท์มือถือ

บริการนี้คือบริการดูแลอุปกรณ์ของท่านที่หน้าจอโทรศัพท์เสียหายจากการทำอุปกรณ์ตก กระแทก ถูกทับ โดยอุบัติเหตุภายในระยะเวลาของสัญญา ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อกำหนดการให้บริการนี้ โดยหากเกิดเหตุให้หน้าจอโทรศัพท์เสียหาย ลูกค้าสามารถขอรับบริการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ของท่านในระยะเวลาที่กรมธรรม์คุ้มครองอยู่

เราคุ้มครองได้ทั้งเครื่องใหม่ และเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่เกิน 18 เดือน โดยที่ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับราคาของเครื่องโทรศัพท์ของลูกค้าแต่ละเครื่อง

เราจะใช้เลขเครื่องอีมี่ (IMEI) ของโทรศัพท์ เพื่อให้เราสามารถทราบว่ารุ่นโทรศัพท์ของคุณลูกค้าเป็นรุ่นใด เพื่อเราจะได้จัดความคุ้มครองให้ได้ตรงตามโทรศัพท์แต่ละเครื่อง

ลูกค้าสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. ยื่นคำขอรับบริการผ่าน facebook : bolttech Device Protection Asisa, อีเมล์ : [email protected]  หรือโทรศัพท์ 02-430 4077
  2. บริษัทฯ จะทำการนัดหมายเพื่อรับโทรศัพท์ เพื่อทำการประเมิณความเสียหายของโทรศัพท์
  3. บริษัทฯ จะทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนโทรศัพท์
  4. บริษัทฯ จะทำการจัดส่งโทรศัพท์กลับไปให้

คำถามทั่วไปสำหรับประกันสัตว์เลี้ยง

ประกันที่คุ้มครองสัตว์ด้วยความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมถึงยังมีค่ารักษาพยาบาลหากสัตว์เลี้ยงแสนรักได้รับการบาดเจ็บจากอุบ้ติเหตุและเจ็บป่วยด้วย

ประกันนี้เราคุ้มครองสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ ดังนี้ 

  1. คุ้มครองหากสัตว์เลี้ยงของคุณเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
  2. มีค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย
  3. ผลประโยชน์ค่าที่พักของสัตว์เลี้ยงที่ต้องนอนเป็นผู้ป่วยในจากอุบัติเหตุ รวมห้อง ICU ด้วย