กระเป๋าแบรนด์เนมได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และราคาปรับพุ่งไม่หยุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการ์ณวิกฤติโควิด-19 หรือช่วงสภาวะเงินเฟ้อก็ตาม

หลายๆแบรนด์เนมต่างปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สินค้ายังขายดีและเติบโตไม่หยุด ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีโควิด-19 และอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง โดยบริษัทที่ปรึกษา Bain คาดว่า ยอดขายสินค้าหรูทั่วโลกจะเติบโตอย่างน้อย 5% ในปีนี้  ทั้งนี้ ประเมินว่า ยอดขายสินค้าหรูทั่วโลกสูงถึง 330,000 ล้านยูโร และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

เชื่อว่าใครหลายๆคนอยากซื้อสินค้าแบรนด์เนม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านกาลเวลาได้จริง แต่อาจจะไม่อยากซื้อด้วยเงินหลักหมื่นแสน

วันนี้ทางบลน.แอสเซนด์ เวลธ์ ขอนำเสนอ “การลงทุนในหุ้นแบรนด์เนมผ่านกองทุนรวม” ทั้งลงทุนได้ง่าย ๆกว่า ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำหลักสิบ 

ตัวอย่างของกองทุนรวมที่ลงทุนในบริษัทผลิตสินค้าแบรนด์เนม อย่างเช่นกองทุน SCBEUEQ จาก บลจ.ไทยพาณิชย์  และกองทุน I-CHIC จาก บลจ.เอ็มเอฟ​ซี 

ทั้ง 2 กองทุน ที่ลงทุนในบริษัทแบรนด์ยักษ์ใหญ่ LVMH หรือเจ้าของแบรนด์เนมหรูอย่าง Louis Vuitton, Céline, Fendi, Givenchy และอีกหลายแบรนด์ในหลากหลายธุรกิจ เช่น แฟชั่น Hi-End เครื่องสำอางค์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบพรีเมี่ยม ซึ่งมีมูลค่าบริษัทราว 11 ล้านล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้นมากถึง 153% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ที่มา: Yahoo Finance ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2565)

รายละเอียดทรัพย์สินที่กองทุนหลักลงทุนของกองทุน SCBEUEQ (จากหนังสือชี้ชวน)

กองทุน SCBEUEQ ที่มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท LVMH 1.77%

รายละเอียดทรัพย์สินที่กองทุนหลักลงทุนของกองทุน I-CHIC (จากหนังสือชี้ชวน)

กองทุน I-CHIC เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนเกี่ยวกับแบรนด์เนมต่างประเทศ คือ Global Trends Luxury Consumer Fund DOMCHEI MV

มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท LVMH 4.10%

อย่าช้า..ที่จะลงทุน สร้างโอกาสเติบโตไปกับหุ้นแบรนด์ดังระดับโลกผ่านกองทุนรวมได้แล้วกับบลน.แอสเซนด์ เวลธ์ เริ่มต้นลงทุนง่ายๆ แค่ 1 บาท